เจาะลึกภาษีธุรกิจเฉพาะ เรียนรู้ว่าใครต้องเสีย ธุรกิจประเภทใดที่เข้าข่าย พร้อมทำความเข้าใจเรื่องดอกเบี้ยรับ การยื่นภ.ธ.40
ในโลกของการทำธุรกิจ มีภาษีหลายประเภทที่ผู้ประกอบการต้องทำความเข้าใจ หนึ่งในนั้นคือ "ภาษีธุรกิจเฉพาะ" ที่หลายคนอาจยังสับสนว่าแตกต่างจากภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อย่างไร วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจและทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาษีธุรกิจเฉพาะ กันแบบละเอียด โดยเฉพาะเรื่องดอกเบี้ยรับที่มักสร้างความสับสนให้กับผู้ประกอบการ
ใครบ้างที่มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ?
เมื่อเราเข้าใจแล้วว่ากิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะมีอะไรบ้าง ขั้นตอนต่อไปคือการทำความเข้าใจว่าใครคือผู้มีหน้าที่เสียภาษีนี้ ซึ่งครอบคลุมผู้ประกอบการในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่หรือผู้ประกอบการรายย่อย มาดูกันว่ามีใครบ้าง
ผู้ประกอบการในประเทศ
- บุคคลธรรมดา เช่น เจ้าของกิจการคนเดียว นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ หรือผู้ให้กู้ยืมเงินที่มีดอกเบี้ยรับเป็นรายได้
- กลุ่มบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล เช่น
- คณะบุคคลที่ร่วมทำธุรกิจแบบไม่จดทะเบียน
- การร่วมค้าระหว่างบุคคลธรรมดา
- กลุ่มผู้ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
- รูปแบบธุรกิจพิเศษ
- กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง แต่มีรายได้จากกิจการที่ต้องเสียภาษี
- ห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ได้จดทะเบียน
- กองทุนต่างๆ ที่มีรายได้จากการลงทุน
- องค์กรขนาดใหญ่
- องค์การของรัฐบาล
- สหกรณ์ประเภทต่างๆ
- นิติบุคคลตามกฎหมายเฉพาะ
ผู้ประกอบการต่างประเทศ
สำหรับธุรกิจที่จดทะเบียนในต่างประเทศแต่มีการดำเนินกิจการในไทย ผู้มีหน้าที่เสียภาษีจะเป็น
- ตัวแทนในประเทศ
- ผู้จัดการสาขาในประเทศไทย
- ตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจ
- ลูกจ้างที่มีอำนาจจัดการ
- ผู้รับผิดชอบการดำเนินงาน
- ผู้บริหารที่ดูแลกิจการในไทย
- ผู้มีอำนาจตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจ
- ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลกิจการ
สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเหล่านี้จะต้องรับผิดชอบร่วมกันในการยื่นแบบ ภ.ธ.40 และชำระภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการประกอบกิจการในรูปแบบใดก็ตาม
กิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ มีอะไรบ้าง?
แล้วธุรกิจแบบไหนบ้างที่ต้องเสียภาษีประเภทนี้? มาทำความรู้จักกันแบบละเอียดกันเลย
1. สถาบันการเงินและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
การธนาคารและธุรกิจการเงินต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะเพราะมีดอกเบี้ยรับเป็นรายได้หลัก ได้แก่
- ธนาคารพาณิชย์ทั้งในและต่างประเทศ
- บริษัทเงินทุนและบริษัทหลักทรัพย์
- บริษัทเครดิตฟองซิเอร์
- สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ
2. ธุรกิจประกันชีวิต
กิจการประกันชีวิตมีลักษณะพิเศษที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ เช่น
- บริษัทประกันชีวิตที่รับประกันความเสี่ยง
- บริษัทที่ให้บริการสะสมทรัพย์
- กิจการที่มีการจ่ายเงินคืนตามกรมธรรม์
3. กิจการโรงรับจำนำ
กิจการโรงรับจำนำ เช่น
- โรงรับจำนำที่คิดดอกเบี้ย
- กิจการให้สินเชื่อที่มีทรัพย์สินค้ำประกัน
- ธุรกิจรับฝากขายทรัพย์สิน
4. กิจการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์
ธุรกิจที่ให้บริการคล้ายธนาคาร เช่น
- การให้กู้ยืมเงินและรับดอกเบี้ยรับ
- การค้ำประกันและแลกเปลี่ยนเงินตรา
- การซื้อขายตั๋วเงินและโอนเงินระหว่างประเทศ
- ธุรกิจแฟ็กเตอริง (รับซื้อลูกหนี้การค้า)
5. การขายอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์
การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องเสียภาษี เช่น
- การจัดสรรที่ดินเพื่อขาย
- การขายห้องชุดหรือคอนโดมิเนียม
- การขายอาคารพร้อมที่ดิน
- การขายที่ดินที่แบ่งแยกและพัฒนาแล้ว
- การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ถือครองไม่ถึง 5 ปี
6. ธุรกิจหลักทรัพย์
กิจการที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ที่ต้องเสียภาษี เช่น
- การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์
- การซื้อและขายคืนหลักทรัพย์ (Repo)
- การให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์
7. กิจการพิเศษอื่นๆ
รวมถึงธุรกิจที่กำหนดเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกา เช่น
- ธุรกิจแฟ็กเตอริง
- กิจการที่มีลักษณะคล้ายสถาบันการเงิน
- ธุรกิจใหม่ที่อาจถูกกำหนดเพิ่มในอนาคต
แบบ ภ.ธ.40 คืออะไร และต้องจัดทำอย่างไร?
แบบ ภ.ธ.40 คือแบบแสดงรายการที่ผู้ประกอบการต้องใช้ในการยื่นภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ ดอกเบี้ยรับ และรายได้อื่นๆ ที่เข้าข่าย มาดูขั้นตอนการจัดทำกัน
1. การกรอกข้อมูลผู้ประกอบการ
- ระบุชื่อผู้ประกอบการและเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
- ระบุรอบระยะเวลาที่ยื่นแบบ
- ระบุสถานประกอบการและที่ตั้ง
2. การคำนวณรายรับและภาษี
- แสดงรายรับก่อนหักรายจ่าย
- คำนวณภาษีที่ต้องชำระ
- คำนวณเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม (ถ้ามี)
ใครมีหน้าที่ยื่นแบบ ภ.ธ.40 บ้าง?
การยื่นแบบ ภ.ธ.40 เป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการหลายประเภท ได้แก่
- สถาบันการเงินที่มีดอกเบี้ยรับ
- ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์
- ธุรกิจที่มีลักษณะการดำเนินงานเยี่ยงธนาคารพาณิชย์
- บริษัทประกันชีวิต
- กิจการที่มีรายได้จากการให้กู้ยืมเงิน
การยื่นแบบ ภ.ธ.40 ต้องทำเมื่อไร?
เรื่องเวลาในการยื่นแบบเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการยื่นล่าช้าอาจมีค่าปรับ มาดูกำหนดเวลาที่สำคัญกัน
1. กำหนดเวลาปกติ
- ยื่นภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
- ต้องยื่นทุกเดือนไม่ว่าจะมีรายรับหรือไม่
2. กรณียื่นผ่านอินเทอร์เน็ต
- ได้รับการขยายเวลาอีก 8 วัน
- สามารถยื่นได้ถึงวันที่ 23 ของเดือนถัดไป
3. กรณีพิเศษ
- หากภาษีในเดือนนั้นต่ำกว่า 100 บาท ได้รับการยกเว้น
- แต่ยังคงต้องยื่นแบบแสดงรายการตามปกติ
สรุป
การจัดการภาษีธุรกิจเฉพาะอย่างมีประสิทธิภาพไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป หากคุณเข้าใจหลักการพื้นฐานของภาษี มีระบบจัดการเอกสารที่ดี วางแผนการยื่นแบบ ภ.ธ.40 อย่างเป็นระบบ และติดตามการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบอย่างสม่ำเสมอ
หากคุณมีความเข้าใจและการวางแผนที่ดี รับรองเลยว่าการจัดการภาษีธุรกิจเฉพาะจะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง
- ภาษีธุรกิจเฉพาะ
- ภธ40
- ยื่นภธ40ดอกเบี้ยรับ
- กิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพา
- ภาษีธุรกิจเฉพาะดอกเบี้ยรับ