สรุปครบทุกข้อมูลการยื่นภาษีประจำเดือนสำหรับผู้ประกอบการ พร้อมกำหนดเวลารายเดือนที่ต้องรู้ อัปเดตล่าสุดในปี 2025!
การยื่นภาษีประจำเดือนเป็นขั้นตอนที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน บทความนี้จะมาช่วยตอบคำถามยอดฮิตที่เจ้าของกิจการหลายๆ คนสอบถามเข้ามา อาทิ ในแต่ละเดือน บริษัทเราต้องเสียภาษีอะไรบ้าง? บริษัทเราต้องเสียภาษีเท่าไหร่? บริษัทเราต้องเสียภาษีภายในเมื่อไร?
ความสำคัญของการนำส่งภาษีอย่างถูกต้อง
การนำส่งภาษีอย่างถูกต้องและตรงเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการทุกคนไม่ควรมองข้าม การนำส่งภาษีอย่างถูกต้องมีผลกระทบต่อธุรกิจของคุณดังนี้
- สร้างความน่าเชื่อถือ: การดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของลูกค้าและคู่ค้า
- ลดความเสี่ยงจากค่าปรับ: การยื่นภาษีล่าช้าหรือผิดพลาดอาจทำให้ธุรกิจเสียค่าปรับหรือดอกเบี้ยเพิ่มเติม
นอกเหนือจากความสำคัญที่กล่าวไว้ การยื่นภาษีหน้าที่ที่ทุกคนต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็ตาม หลายคนที่กำลังสงสัยว่าจะชำระภาษี วางระบบการชำระภาษีของบริษัท หรือพัฒนากระบวนการยื่นภาษีปัจจุบันของบริษัทอย่างไรดี บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้มากขึ้น ส่วนใครที่ตัดสินใจได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอยากปรึกษาและให้เราช่วยเหลือ ทาง METI ของเราก็มีบริการรับให้คำปรึกษาและทำบัญชีครบวงจร ด้วยทีมงานที่ได้รับใบอนุญาต CPA ถูกต้องตามกฎหมาย มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี
ภาษีที่ต้องนำส่งรายเดือน
ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการนำส่งภาษีหลากหลายประเภทให้กับกรมสรรพากร โดยภาษีแต่ละประเภทก็มีกำหนดเวลาในการยื่นแบบ และนำส่งเงินภาษีไม่ตรงกัน สำหรับภาษีที่ผู้ประกอบการต้องยื่นเป็นรายเดือนมีดังนี้
ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เป็นภาษีที่ผู้จ่ายเงินต้องหักไว้ตามอัตราที่กฎหมายกำหนด และนำส่งให้กรมสรรพากร
ตัวอย่างค่าใช้จ่ายที่ต้องหัก ณ ที่จ่าย
- ค่าบริการ
- ค่าจ้างทำของ
- ค่าขนส่ง
- ค่าโฆษณา
- ค่าเช่า
เอกสารที่ต้องเตรียม
- แบบภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เพื่อนำส่งให้แก่กรมสรรพากร แบ่งตามประเภทเงินได้แก่
- ภ.ง.ด.1
- แบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ต้องนำส่งกรมสรรพากร หากบริษัทมีรายจ่ายที่เป็นเงินเดือนแก่พนักงาน กล่าวคือเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) และ (2)
- ภ.ง.ด.2
- แบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ต้องนำส่งกรมสรรพากร หากบริษัทมีรายจ่ายที่เป็นเงินได้ประเภท 40(3) และ 40(4)
- ภ.ง.ด.3
- แบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ต้องนำส่งกรมสรรพากร หากบริษัทมีรายจ่ายซึ่งผู้รับเป็นบุคคลธรรมดา เช่น ค่าจ้าง ค่าเช่า ค่าบริการ หรือเงินได้อื่นๆ ที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย
- ภ.ง.ด.53
- แบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่ต้องนำส่งกรมสรรพากร หากบริษัทมีรายจ่าย กรณีที่ผู้รับเงินเป็นนิติบุคคล เช่น การหักภาษีจากค่าจ้างหรือค่าบริการที่จ่ายให้นิติบุคคลอื่น
- ภ.ง.ด.1
- หนังสือรับรองการหัก ณ ที่จ่าย (ใบ 50ทวิ )เพื่อส่งให้แก่ผู้ที่บริษัทหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ โดยกรอกข้อมูลผู้จ่ายเงิน ผู้รับเงิน และรายละเอียดการหักภาษีให้ครบถ้วน กรณีจ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) และ 40(2) แห่งประมวลรัษฎากร
- กรณีทำงานจนถึงสิ้นปี : ต้องทำการออกใบ 50 ทวิ ภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ของปีถัดจากปีภาษี
- กรณีออกจากงานในระหว่างปี: ต้องทำการออกใบ 50 ทวิ ภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายออกจากงานในระหว่างปีภาษี
- กรณีจ่ายเงินได้อื่น ๆ ตามมาตรา 40(3) (4) (5) (6) (7) หรือ (8) แห่งประมวลรัษฎากร ต้องทำการออกใบ 50 ทวิ ทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย
กำหนดการยื่นแบบภาษีแก่กรมสรรพากร
- แบบกระดาษ: ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
- แบบออนไลน์: ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
ตัวอย่างสถานการณ์
บริษัท Alpha จ่ายค่าบริการออกแบบเว็บไซต์ให้ฟรีแลนซ์ 20,000 บาท เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566 ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% (600 บาท)
- ฟรีแลนซ์จะได้รับเงินสุทธิ 19,400 บาท
- บริษัท Alpha ต้องนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย 600 บาท พร้อมยื่นแบบ ภ.ง.ด.3 ภายในวันที่ 15 กันยายน 2566 (หากยื่นแบบออนไลน์)
- บริษัท Alpha ต้องออกหนังสือรับรองการหัก ณ ที่จ่ายทันทีเมื่อมีการ หักภาษี ณ ที่จ่าย กล่าวคือเอกสารลงวันที่ 10 สิงหาคม 2566 และส่งให้กับฟรีแลนซ์(ตามตกลงหรือภายในปีภาษีนั้นเพื่อใช้ประกอบภาษีเงินได้ส่วนบุคคลของฟรีแลนซ์เอง)
2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT 7% เป็นภาษีที่จัดเก็บจากการขายสินค้าและบริการ โดยผู้ประกอบการที่จดทะเบียน VAT ต้องนำส่งภาษีนี้
เงื่อนไข
- กิจการที่ไม่ได้จดทะเบียน VAT ไม่ต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม
- กิจการที่จดทะเบียน VAT ต้องยื่นแบบภาษีทุกเดือน
เอกสารที่ต้องเตรียม
- แบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้แก่
- ภ.พ.30
- แบบนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งเป็นเอกสารสรุปภาษีซื้อ-ภาษีขายที่เจ้าของธุรกิจต้องใช้ยื่นต่อกรมสรรพากรทุกเดือน โดยต้องยื่นก่อนวันที่ 15 ของเดือนถัดไป สำหรับธุรกิจที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปีและขึ้นทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
- ภ.พ. 36
- แแบบนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ผู้จ่ายค่าสินค้าและบริการ เป็นผู้ยื่นแบบและนำส่งภาษีแทน ผู้ประกอบการที่เข้ามาประกอบกิจการในประเทศไทยเป็นการชั่วคราวหรือมิได้เข้ามาประกอบกิจการในประเทศไทย
- ภ.พ.30
2. รายงานภาษีซื้อและใบกำกับภาษีซื้อ
- สามารถนำมาใช้หักภาษีขายได้ภายใน 6 เดือน นับจากเดือนถัดไปหลังจากที่ออกใบกำกับภาษี แต่หากไม่สามารถหักได้ในเดือนภาษีนั้น ต้องมีเหตุจำเป็น เช่น ความล่าช้าตามประเพณีการค้า เหตุสุดวิสัย หรือได้รับใบกำกับภาษีในเดือนอื่นที่ไม่ตรงกับเดือนที่ระบุในเอกสาร
3. รายงานภาษีขายและใบกำกับภาษีขาย
- เอกสารที่สรุปรายละเอียดภาษีขายที่กิจการเรียกเก็บจากลูกค้าในแต่ละเดือน โดยต้องบันทึกรายการตามสำเนาใบกำกับภาษีที่ออกในเดือนนั้น และมีกำหนดว่าภาษีขายที่เกิดขึ้นในเดือนใดจะต้องบันทึกในเดือนนั้นเท่านั้น เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ถูกต้อง
4.รายงานสินค้าคงเหลือและวัตถุดิบ
- เอกสารที่บันทึกรายการสินค้าคงเหลือและวัตถุดิบในคลัง โดยระบุจำนวนที่มีในสต็อกและการเคลื่อนไหวของสินค้า เพื่อให้การจัดการสต็อกมีความถูกต้องและเหมาะสม
กำหนดการยื่นแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
- แบบกระดาษ: ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
- แบบออนไลน์: ภายในวันที่ 23 ของเดือนถัดไป
ตัวอย่างสถานการณ์
บริษัท Beta ขายสินค้า 200,000 บาทในเดือนสิงหาคม 2566
- ภาษีขาย: 7% ของยอดขาย (มียอด VAT อยู่ที่ 14,000 บาท)
- บริษัทมีการซื้อสินค้ามามีมูลค่าต้นทุน 100,000 บาท ซึ่งในนั้นมี VAT 7% (มียอด VAT ที่ จ่ายไป 7,000 บาท)
เมื่อนำส่งแบบภาษี ภ.พ.30 ในเดือนกันยายน 2566
- ภาษีที่ต้องชำระ = ภาษีขาย – ภาษีซื้อ เมื่อคิดตามตัวอย่างจะได้ว่า
14,000 – 7,000 = 7,000 บาท
สรุปได้ว่าภาษีที่ต้องชำระในเดือนนี้คือ 7,000 บาท
การยื่นภาษีประจำเดือนสำหรับบริษัทจำกัดและห้างหุ้นส่วนไม่ใช่เรื่องยาก หากมีการจัดการที่เป็นระบบ การปฏิบัติตามกฎหมายภาษีช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างมั่นคง และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจในระยะยาว
ตัวอย่างแบบฟอร์มภาษีที่สำคัญ
1. ภ.ง.ด.1
3. ภ.ง.ด.3
4. ภ.ง.ด.53
5. ภ.พ.30
6. ภ.พ.36
ขั้นตอนการเตรียมตัวสำหรับการยื่นภาษี
- จัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน:
มีการจัดเตรียมเอกสารแยกประเภทอย่างเป็นระเบียบ เช่น ใบกำกับภาษีซื้อ ใบกำกับภาษีขาย ใบเสร็จรับเงิน และเอกสารค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยื่นภาษี - ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล:
จัดทำแบบแสดงรายการ และมีการตรวจสอบอีกรอบเพื่อลดความผิดพลาดในการนำส่งภาษี - ใช้ซอฟต์แวร์บัญชีหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ:
ช่วยลดเวลาในการจัดทำเอกสารและคำนวณตัวเลขได้อย่างแม่นยำ
ข้อควรระวังในการยื่นภาษี
- ยื่นแบบฟอร์มตามกำหนดเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับ
- เก็บหลักฐานการยื่นภาษีไว้ในกรณีที่ต้องตรวจสอบย้อนหลัง
- ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับภาษีห้างหุ้นส่วนและข้อกำหนดล่าสุดเพื่อความถูกต้อง
การเตรียมยื่นภาษีรายเดือนมีความจำเป็นต้องทำให้ถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับ และเสมือนเป็นการแบ่งภาระภาษีที่ต้องจ่ายทั้งปีมาทะยอยชำระไปในแต่ละเดือน หากผู้ประกอบการที่ไม่มีความเข้าใจ ควรปรึกษาเพื่อให้ดำเนินการให้ถูกต้อง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง
- ภาษีบริษัท
- นําส่งภาษี หัก ณ ที่จ่าย
- บริษัทเสียภาษีเท่าไหร่
- ภาษีที่หักและนําส่งไว้คือ
- ภาษีห้างหุ้นส่วน